เช็ครถให้ชัวร์ก่อนเดินทางไกล ต้องปลอดภัยไว้ก่อน
ถนนเป็นเส้นทางสำหรับรถใช้สัญจร ตลอดถึงผู้ขับขี่รถบนถนน ทำให้ผู้ขับขี่ต้องพบปะรถหลายประเภท และผู้คนที่ต้องใช้ชีวิตถนนข้างถนน การขับขี่รถด้วยความระมัดระวังจึงเป็นพื้นฐานสำคัญในการใช้รถบนถนน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุมิให้กระทบเทือนต่อตัวเอง ผู้อื่น คนรอบข้าง และทรัพย์สิน
นอกจากการมีสติในการขับขี่แล้ว ควรต้องใส่ใจสภาพรถทุกครั้ง เพื่อป้องเหตุอันตรายเนื่องจากรถเสื่อมสภาพ โดยเฉพาะทุกครั้งที่ต้องเดินทางไกลทำให้รถทำงานหนักหลายชั่วโมง การตรวจเช็คสภาพรถทุกครั้ง จึงเป็นวิธีป้องกันเบื้องต้นไม่ให้รถเสียระหว่างทาง วิธีการตรวจสภาพง่าย ๆ ด้วยตัวเอง ทำได้ดังนี้
เช็ครถ 8 จุดสำคัญ ก่อนออกเดินทางไกล
- แบตเตอรี่
แบตเตอรี่เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้รถสตาร์ทติดได้ แบตเตอรี่ต้องตรวจเช็คเสมอ โดยดูจากขั้วไฟบนแบตเตอรี่ ซึ่งมี 3 สี คือ
สีน้ำเงิน คือ แบตเตอรี่เต็ม ใช้งานได้ปกติ
สีขาวใส คือ แบตเตอรี่อ่อน ต้องชาร์จแบตที่ร้านขายแบตเตอรี่ หรือร้านไดนาโม
สีแดง คือ น้ำกลั่นแห้งภายในแบตเตอรี่แห้ง ต้องเติมน้ำกลั่น
ทั้งนี้ต้องหมั่นทำความสะอาดที่ขั้วแบตเตอรี่ไม่ให้มีคราบน้ำเกลือเกาะติด และตรวจสอบน็อตขั้วแบตเตอรี่ให้แน่น
ทั้งนี้การใช้รถนานกว่า 2 ปี มีโอกาสที่จะทำให้แบตเตอรี่หมดได้ง่าย ทำให้รถสตาร์ทไม่ติด จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่
- ล้อและยางรถยนต์
ยางรถช่วยการขับเคลื่อนรถได้อย่างนิ่มนวล หากยางรถเสื่อมสภาพจะทำให้ระหว่างการขับรถเป็นอันตรายอย่างยิ่ง โดยเฉพาะผู้ที่ขับรถด้วยความเร็ว อาจเสี่ยงทำให้ยางระเบิดได้ จึงต้องตรวจเช็คสภาพยางรถดังนี้
เช็คสภาพยางภายนอก ไม่รั่ว ไม่ซึม ยางไม่บิดเบี้ยว ไม่แตกลายงา ไม่มีรอยปริแตก มีดอกยางเพียงพอ โดยร่องดอกยางต้องมีความลึกไม่ต่ำกว่า 3 มิลลิเมตร เพื่อช่วยในการรีดน้ำบนถนนเปียกได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากร่องยางตื้นมากไปจะยิ่งเสี่ยงรถไหลบนถนนเปียกได้
การเติมลมยางต้องไม่อ่อนไป เพราะจะทำให้เปลืองน้ำมัน หากเติมลมยางแข็งเกินไปจะเสี่ยงทำให้ยางระเบิดได้ ส่วนการ
ส่วนการเช็คล้อ ต้องไม่คดไม่บิดเบี้ยว โดยสามารถตั้งล้อใหม่ได้ที่ศูนย์ตั้งรถทั่วไป
- เช็คช่วงล่าง
ระบบช่วงล่างมีผลต่อการทรงตัวขับขี่ ให้ลองขับแล้วสังเกตว่าพวงมาลัยตรงหรือไม่ ไม่บิดเบี้ยวใช่ไหม หากขับบนถนนขรุขระแล้วได้ยินเสียงกรุกกรักตรงโครงล่างรถให้รีบไปตั้งศูนย์ใหม่ อาจมีปัญหาตรงลูกหมาก และดูโช้คด้วยว่ามีคราบน้ำมันเกาะที่แกนโช้คหรือไม่
- ระบบเบรก และผ้าเบรก
การเหยียบเบรกแล้วรถไม่หยุดได้อย่างราบลื่นเหมือนอย่างเดิม นั้นอาจเป็นเพราะว่าน้ำมันเบรกหมด จึงเข้าใจว่าต้องเติมน้ำมันเบรกลงไป แต่ความจริงต้องตรวจเช็คก่อนว่าระบบเบรกอาจมีปัญหา เช่น อาจมีช่องรั่วในระบบเบรก จึงทำให้น้ำมันหมด ซึ่งความจริงแล้ว น้ำมันเบรกไม่ควรจะหมดได้ง่ายๆเหมือนน้ำมันเชื้อเพลิง
ผ้าเบรกก็เป็นส่วนสำคัญของล้อทั้ง 4 ล้อด้วยเช่นกัน หากสังเกตแล้วพบว่าเมื่อเบรกรถจะได้ยินเสียงเอี๊ยดอ๊าดจนน่าตกใจ หรือคล้ายเสียงหอน นั้นคือสัญญาณเตือนว่าผ้าเบรกหมดแล้ว ส่งผลให้จานเบรกสึกด้วย เมื่อจานเบรกสึกสัมผัสกับผ้าเบรกจึงเกิดเสียงดังกล่าว
- ไฟส่องสว่าง
ระบบไฟหน้ามีความจำเป็นอย่างยิ่งในการส่องสว่างในเวลากลางคืน รวมถึงไฟท้ายทำให้รถตามหลังมองเห็นและไม่ขับรถชนได้ ถ้าส่วนไฟส่องสว่างมีปัญหา ผลที่ตามมาคือ ไม่สามารถให้สัญญาณไฟกระพริบเลี้ยวซ้าย-ขวาได้ ไฟตัดหมอกก็ไม่สามารถใช้งานได้ จึงต้องเช็คดูว่าหลอดไฟดวงใดเสื่อมสภาพแล้วบ้าง หากไฟส่องสว่างเริ่มหรี่ลงต้องรีบเปลี่ยนหลอดไฟ
- น้ำมันเครื่อง
น้ำมันเครื่องเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ระบบกลไกภายในรถยนต์ทำงานได้อย่างคล่องตัว ช่วยหล่อลื่นและลดการเสียดสีของตัวสูบและระบบต่างๆภายในตัวเครื่อง การใช้งานน้ำมันเครื่องให้ได้ตามประสิทธิภาพต้องอยู่ตามระยะทางวิ่งที่คู่มือกำหนด หรือตรวจเช็คตรงก้านน้ำมันเครื่องตรงอยู่ในจุดที่กำหนด แล้วจึงเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง หากยังฝืนใช้น้ำมันเครื่องเก่าไปนาน ๆ โดยไม่เปลี่ยนถ่าย จะทำให้น้ำมันเครื่องเหนียวหนืด ระบบภายในมีปัญหา ทำให้เครื่องยนต์ภายในพังได้ง่าย
- ระบบหล่อเย็น หม้อน้ำ
ระบบระบายความร้อนของตัวเครื่องยนต์มีความสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ เพราะการวิ่งรถยนต์ในระยะทางไกล ๆ จะทำให้เครื่องยนต์มีความร้อนสูง บวกกับความร้อนจากอากาศภายนอกรวมกันอีก ถ้าระบบระบายความร้อนทำงานไม่ดี จะทำให้เครื่องยนต์น็อคได้
วิธีที่ดีต้องตรวจสอบระบบเช็คระดับน้ำหล่อเย็นในหม้อพักและหม้อน้ำ เช็คระบบการทำงานใบพัดหม้อน้ำและระบบมอเตอร์ด้วย หากหม้อน้ำรั่วต้องเปลี่ยนซ่อมทันที และดูท่อยาง ข้อต่อไม่ให้รั่วซึมด้วย
- มีชุดเครื่องมือประจำรถติดรถไปทุกที่
เราไม่สามารถล่วงรู้ได้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดอะไรบ้าง เช่น ยางรถแตก จึงจำเป็นต้องมีเครื่องมือซ่อม เช่น ล้อ ยาง อะไหล่ แม่แรง เครื่องทุ่น สายลากรถ ที่เติมรถ เผื่อซ่อมแซมได้หากรถเสียระหว่างทางที่ไกลจากอู่ซ่อมรถ
การเตรียมความพร้อมเช็ครถให้ดีก่อนเดินทาง เป็นขั้นตอนเบื้องต้นที่นักเดินทางต้องปฏิบัติ รวมถึงการพักผ่อนให้เต็มที่ก่อนขับรถ จะทำให้คุณมีพลังขับรถได้อย่างปลอดภัยจนถึงปลายทาง
ขอขอบคุณข้อมูลจากเว็ป https://nipponsafety.com/ https://thailandsafety.com/, https://teamsafetysales.com/, https://jorporsafety.com , https://safetyshopthailand.com
จำหน่ายอุปกรณ์เซฟตี้