มลพิษทางทะเล ภัยคุกคามใต้มหาสมุทรรอบโลก

เราคงไม่อยากใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางขยะและเศษพลาสติก สัตว์ทะเลก็เช่นกัน มิหนำซ้ำพวกมันยังคิดว่าพลาสติกที่ลอยในมหาสมุทรคืออาหาร สุดท้ายต้องจบชีวิตลงเพราะมลพิษจากฝีมือมนุษย์ที่ทิ้งลงทะเลกว่า 9 ล้านตันต่อปี พลาสติกเหล่านั้นคือมลพิษทางทะเล ภัยคุกคามต่อสิ่งมีชีวิตใต้ท้องมหาสมุทร

มลพิษทางทะเล พิษร้ายทำลายทรัพยากรใต้ทะเล

มลพิษทางทะเล เป็นสาเหตุที่ทำให้ความไม่ปกติของสิ่งแวดล้อมในท้องทะเลเกิดขึ้น ทั้งรอบทะเลและใต้ทะเลลึกที่ต่างไปจากเดิม ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศในทะเลตั้งแต่พืช ปะการัง สัตว์ทะเล จุลินทรี แพลงตอน ที่ต้องอาศัยอยู่ใต้ทะเล หากมีมลพิษทางทะเลเข้ามารบกวนจะทำให้สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นไม่สามารถดำรงชีวิตปกติได้

หลายคนอาจยังไม่ตระหนักถึงผลกระทบเหล่านี้ แต่ยังคงใช้ประโยชน์จากทะเลโดยปราศจากจิตสำนึก เช่น การทิ้งขยะบนชายหาด ทิ้งขยะกลางทะเล หรือแม้แต่กิจกรรมขนาดใหญ่ เช่น การเดินเรือทางทะเล โดยปล่อยคราบน้ำมันบนทะเล หรืออุบัติเหตุเรือชนทำให้คราบน้ำมันทะลักปนเปื้อนสู่ทะเล การปล่อยน้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมลงแม่น้ำโดยตรง ท้ายที่สุดแม่น้ำก็ไหลลงสู่ทะเล

อึ้ง! พบขยะพลาสติก ลึกถึงก้นมหาสมุทร

เจ้าของสถิติโลกคนใหม่ นักดำน้ำมหาสมุทรลึกถึง 11 กิโลเมตร เผยให้เห็นแล้วว่าไม่ว่ามหาสมุทรจะลึกสักเพียงใด มนุษย์ก็จะสามารถเอาชนะด้วยขยะพลาสติกให้จมลงลึกได้ แต่นี้ยังไม่ใช่การค้นพบขยะพลาสติกครั้งแรก เพราะเคยค้นพบมาแล้วเมื่อทีมงานนักดำน้ำระบุว่า ทุกการสำรวจพื้นมหาสมุทรทวีปใดก็จะมีให้เห็นพลาสติกอยู่ประปราย ซึ่งนั้นคือวิกฤตอันตรายต่อสัตว์ทะเลและมนุษย์ด้วยเช่นกัน

วิคเตอร์ เวสโคโว ผู้ทำลายสถิติโลกใหม่จากการดำดิ่งใต้ท้องมหาสมุทรลึกถึง 10,927 เมตร ด้วยยานสำรวจน้ำลึก ลงใต้ร่องลึกมหาสมุทรมาเรียนา ในที่ตั้งมหาสมุทรแปซิฟิก โดยครั้งนี้นอกจากการค้นพบสิ่งมีชีวิตสปีชีส์ใหม่ ๆ ยังพบถุงพลาสติกและเปลือกลูกอม

การค้นพบครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไรเลย เมื่อเขาและทีมงานเคยเห็นขยะพวกนี้อยู่บ่อยครั้งมาแล้ว ไม่ว่าจะดำลึกใต้มหาสมุทร 3 แห่งในโลก ช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2018 จนถึงในปี 2019 เช่น การดำลึกใต้มหาสมุทรเปอร์โตริโก ในมหาสมุทรแอตแลนติก (8,376 เมตร) ก้นสมุทรแซนด์วิชในมหาสมุทรใต้ (7,433 เมตร) และก้นสมุทรชวาในมหาสมุทรอินเดีย (7,192 เมตร) ซึ่งตลอดการดำดิ่งลึกก็จะเห็นพลาสติกตลอด

การดำลึกลงใต้มหาสมุทรครั้งนี้เป็นหนึ่งในโครงการสำรวจ Five Deeps ที่จะสำรวจบริเวณที่ลึกที่สุดของมหาสมุทร 5 แห่งในโลก โดยใช้ยานสำรวจพร้อมทีมงานนักดำน้ำ เพื่อต้องการดูความสมบูรณ์ใต้มหาสมุทร

ในการสำรวจครั้งนี้ได้บันทึกคลิปวีดีโอของทีมนักสำรวจ จึงทำให้เห็นว่ามีชิ้นส่วนขยะพลาสติกลอยอยู่ใต้ส่วนที่ลึกของโลก โดยทีมงานจะทำการเก็บสิ่งมีชีวิตบางส่วนเพื่อตรวจสอบหาไมโครพลาสติก ชิ้นส่วนขนาดเล็กที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าว่าจะปะปนอยู่ในสิ่งมีชีวิตหรือไม่ ซึ่งปัญหานี้ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่จะกระทบต่อสัตว์เล็ก ๆ รวมถึงมนุษย์ที่ต้องใช้ประโยชน์จากทะเลด้วย

วิกฤตสัตว์ทะเลตายเกลื่อน เพราะภัยจากพลาสติก

มลพิษที่ร้ายกาจที่สุด คุกคามต่อสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลมากที่สุดก็คือ “พลาสติก” เพราะสัตว์ทะเลคิดว่าเป็นอาหาร จึงเป็นสาเหตุทำให้สัตว์ทะเลตายเกลื่อน

สหรัฐอเมริกาพบลูกเต่าตายเพราะกินพลาสติกกว่า 104 ชิ้น

ล่าสุด รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา พบกับลูกเต่าสายพันธุ์หัวค้อนขนาดเท่าฝ่ามือนอนตายในลักษณะเกยตื้นที่ฝั่ง เพราะกินพลาสติกเข้าไปจำนวนมาก ด้วยเชื่อว่าพวกมันน่าจะหิวอย่างหนักประกอบกับเมื่อกินจากพลาสติกเข้าไปทำให้รู้สึกอิ่ม โดยลักษณะลูกเต่าตัวนี้ผอมแห้งอย่างมาก แม้ว่าทางศูนย์ฯ ได้สร้างกล่องเพื่อให้เต่าอาศัยและฟื้นฟูก่อนปล่อยสู่ทะเล แต่สุดท้ายก็มีชีวิตรอดบ้างก็อยู่ในภาวะอ่อนแอ ชี้ให้ชัดว่าพวกมันมีพลาสติกอยู่ในตัวแล้ว ซึ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ ลูกเต่าที่เพิ่งฟักออกจากไข่ จะเสี่ยงตายสูงกว่าเพราะกินพลาสติกเยอะมากที่สุด

ตะลึง!พบไมโครพลาสติกในกระเพาะปลาหมึก-ปลาทู

นักวิจัยพบกระเพาะปลาหมึกไทยมีไมโครพลาสติกเป็นเม็ด และแบบเส้นใยเสื้อ เน็ตประมง ก่อนหน้านี้เคยเจอในอากาศ น้ำฝน น้ำดื่ม สุดท้ายพบในห่วงโซ่อาหารเช่น ปลาทู หอย แม้แต่ในอุจจาระมนุษย์

การค้นพบครั้งนี้เป็นที่ยืนยันแล้วว่า พลาสติกได้กระจายไปทุกที่และมันแทรกซึมถึงห่วงโซ่อาหารของมนุษย์ไปแล้ว ไมโครพลาสติกที่พบในกระเพาะปลาหมึกมีปริมาณรวม 1 ขีด รวมกันกว่า 21 ชิ้น แปลว่ามันไม่ได้กินพลาสติกโดยตรง แต่มันเองปลาเล็ก ๆ ซึ่งสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลกินพลาสติกเป็นอาหารนั้นเอง แม้ว่าพลาสติกจะติดค้างในกระเพาะอย่างเดียว จะไม่เป็นอันตราย แต่ตราบใดที่พลาสติกมีคุณสมบัติดูดซับสารเคมีได้อย่างยาฆ่าแมลง หรือสารพิษอื่น เมื่อมันเข้าสู่ร่างกายแล้วก็ละลายออกมา เข้าสู่กระแสเลือดได้

ประเทศไทยเป็นประเทศที่ใช้พลาสติกมากเป็นลำดับต้น ๆ เฉลี่ยแล้วปีละ 7 หมื่นล้านใบที่คนไทยใช้แล้วทิ้ง เพราะใช้ง่าย ฟรี เบา แต่เมื่อมันถูกทิ้งกลางถนน ก็ถูกลมพัดลอยตกไปในคลอง ตกลงไปถึงทะเล และจมลงลึกถึงก้นมหาสมุทรที่เราเคยเห็นข่าววาฬขึ้นมาเกยตื้นก่อนตาย พบว่าในตัววาฬมีพลาสติกกว่า 80 ใบ ข่าวพะยูนตายเพราะมีพลาสติก เต่าที่มีพลาสติกพันรอบกระดอง หรือหลอดติดในรูจมูก เรื่องราวเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นอีกหากพวกเราทุกคนตระหนักถึงปัญหาพลาสติกให้มากยิ่งขึ้น

ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่เราควรจะปรับตัว ใส่ใจสิ่งแวดล้อมรอบตัวให้มากขึ้น หยุดทำร้ายสัตว์ทะเล หยุดทำร้ายทรัพยากร เพื่อตัวเราไม่ต้องเสี่ยงรับไมโครพลาสติกย้อนกลับเข้ามาทำร้ายตัวเราเอง

ขอขอบคุณข้อมูลจากเว็ป https://nipponsafety.com/ https://thailandsafety.com/, https://teamsafetysales.com/, https://jorporsafety.com , https://safetyshopthailand.com